รถอเมริกันดอส รู้จักกับ Dodge Charger ตำนานรถอเมริกัน

รถอเมริกันดอส ในปี 1964 ได้มีเหตุการณ์ ที่สำคัญกับใน ประวัติศาสตร์รถยนต์ กับการเปิดตัวของ Ford Mustang ที่นับได้ว่า มาเพื่อที่จะพลิกวงการของ รถยนต์อเมริกา ได้เลยทีเดียว และนี่คือครั้งแรกของ รถสปอร์ตขนาดเล็ก ที่มีราคาที่ สามารถจับต้องได้ ที่ได้ผลิตมาจำนวนมาก เพื่อขายท้องตลาดครั้งแรก ถึงกับเดือดร้อน กับทีมบริหารขิง Chrysler หนึ่งค่ายรถยนต์ Big 3 ในประเทศสหรัฐอเมริกา ตอนนี้นเลยทีเดียวครับ แล้วก็ได้เป็น จุดเริ่มต้นกับ Dodge-Charger รถระดับตำนานจากค่าย Dodge ในเครือของ Chryler เวลาต่อมาครับ

รถอเมริกันดอส สุดยอดตำนานรถสปอร์ตอเมริกัน

กับช่วงของโลกทุนนิยม ยากที่จะมี แบรนด์ไหนได้ครองตลาด แบบเป็นเบ็ดเสร็จหมดได้ นั่นก็เพราะว่า หากผลิตออกมาได้ดี ก็มักจะเกิดคู่แข่ง ขึ้นมาโดยตลอด แน่นอนครับว่า Ford นั้นเปิด ตลาดรถสปอร์ต ไปมีราคาที่สามารถ ซื้อได้ง่ายขึ้นแล้ว

ก็ต้องมีคู่แข่ง อย่างแน่นอนครับ ทางด้าน Chrysler เลยได้มีโปรเจกต์ ที่มีความเร่งด่วน ที่ใช้เวลาเพียง ไม่ถึงปีเลยครับ สุดท้ายก็ได้เอาพื้นฐาน ของทางด้าน Dodge Polara รถยนต์ 2 ประตู ของค่ายนั้น นำไปดัดแปลงครับ แต่Dodge Polarนี้จะตัดหลังคา

รถอเมริกันดอส

แล้วได้ตกแต่ง เพิ่มความโฉบเฉี่ยว มากับเครื่อง V8 ที่มีขนาด 6.3 ลิตรเข้าไป Dodgeตั้งชื่อรถคอนเซปต์นี้ ไว้ว่าเป็นตัว Charger นั่นเองครับ ในส่วนของคอนเซปต์ หลังจากที่ออกรถมา ก็เพื่อที่จะเรียกให้ลูกค้า นั้นมาสนใจกับDodge ให้ได้เดินหน้า

เพื่อที่จะทำการพัฒนารถ เพื่อมาแข่งกับตัว Mustang จนผ่านมาถึงปี 1965 Dodgeได้เปิดตัว Dart GT Charger ที่เป็นCharger ที่ผลิตขายจริง ๆ ออกมาเป็นตัวแรกครับ Dodge Dart GT Charger ที่มีเครื่องยนต์ V8 ขนาด4.5 ลิตร 235 แรงม้า

ที่ทำมามีแค่ คันสีเหลืองแค่เท่านั้นครับ รถนี้ได้ผลิตทั้งหมด มีจำนวนจำกัดที่ 150 คันเท่านั้น เหมือนDodge ที่ยังคงหาแนวไม่ได้ ก็จำต้องทำการตลาด ที่ออกมาหยั่งเชิงก่อน เป็นการทดลองตลาด กับการขายว่า ได้หรือไม่ได้นั่นเองครับ

รถอเมริกันดอส ดูกับรถตัว Dodge Charger ในแต่ละตัวที่น่าสนใจ

ในเรื่องของการผลิต ที่ทำรถออกมา ในจำนวนที่น้อยนี้ แถมยังไม่ได้ทำการตลาด เพื่อจะแข่งกับMustang จริงจังนั่น ดีลเลอร์ของทางDodge เลยเกิดความเครียดกว่า จนไม่พอใจว่า เพราะอะไรถึงไม่ทำ รถสปอร์ตมาขายสักที

Dodgeจำต้องจะ ทำอะไรสักอย่างแล้ว ไม่งั้นทางดีลเลอร์ ทั้งอเมริกานั้น คงหันไปขายแบรนด์อื่นกันหมด พวกเค้าเลยได้ตัดสินใจ ที่จะทำการพัฒนา รถสปอร์ตไซร์กลาง ด้วยการใช่พื้นฐาน Dodge-Coronet แล้วเปลี่ยนการออกแบบ

ในส่วนของหลังคารถ ไฟท้าย ขึ้นมาใหม่ รถเลยดูแล้วสปอร์ต ขึ้นมามากกว่าเดิมครับ แถมยังได้ยัดเครื่องยนต์ตัว V8 HEMI ที่มีขนาด 7 ลิตร 425แรงม้า จัดให้ไปแบบเต็ม ๆ ถูกใจสายซิ่งไปเลย บวกเข้าไปกับ ออพชั่นสุดเจ๋ง ในรถคันนี้

ที่ไม่พูดไม่ได้จริง ๆ ก็คือส่วนของ ไฟหน้าแบบหมุนเปิดปิด ที่ติดตรงกระจังหน้ารถ รถคันนี้เปิดตัวปี 1966 แน่นอนครับว่า ชื่อของรถในรุ่นนี้คือ Dodge Charger เรื่อของชื่อเสียง นับว่าดังขึ้นทันทีเลย จนสามารถสร้างภาพลักษณ์ ที่เป็นของตัวเอง

แบบคนที่อยู่หลังพวงมาลัย Chargerนี้คือ คนที่เฟี้ยวฟ้าว อย่างไม่ต้องสงสัย แต่อย่างไรก็ เป้าหมายทางค่าย ก็เป็นการดึงยอด จากFord นั้นยังคง ไม่สำเร็จเท่าที่ควรครับ ดูจากปี 1966-1967 Dodge-Charger ได้มียอดขายที่ทำได้

แค่เพียง 37,000 คันเท่านั้น แต่ว่าทางFord ยอดขายรวมของตัว Mustang ทำยอดได้มากกว่าคือ 1,000,000 คัน นับว่ามากเกือบจะ 30 เท่า ในเวลานั้นครับ จนกระทั่งปี 1968 เลยต้องเข็น Chargerออกมา ในเจเนอเรชั่น 2 เพื่อมาขาย แล้วครั้งนี้ก็เลย ได้เป็นจุดเริ่มต้น ของความรุ่งเรืองกับDodge

ความรุ่งเรืองของดอสเจเนอเรชั่น 2

เจเนอเรชั่น 2 ได้ทำการปรับดีไซน์ ขึ้นมาใหม่โดยใช้หลัก Coke Bottle Styling ที่เป็นสไตล์นิยม ของเหล่ารถซิ่ง ที่อยู่ในยุคใช้ครับ รถนั่นปรับดีไซน์ที่ ส่วนของกระจังหน้า เป็นไฟท้ายพาดยาว ที่เป็นดีไซน์ใหม่ แต่ก็ยึดเอกลักษณ์ ไฟหน้าที่เป็นหมุนเปิดปิด

รถอเมริกันดอส

เอาไว้อยู่นั่นเอง ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้  Chargerเจน2 ก็ได้ถูกให้เป็น รถรุ่นที่มีเสน่ห์ที่สุด จนเป็นภาพจำ เวลาที่พูดถึงCharger หลายคนก็ต้องนึกถึง รถในเจน2 นี้กันอย่างแน่นอน ส่วนยอดขายที่ออกมา Dodge-Chargerนี้

สามารถสร้างยอดขาย ที่มากกว่า 100,000 คันเลยทีเดียว ตอนปี 1968 เป็นการขายที่ ดียิ่งกว่าเก่า หลายเท่ามาก ๆ ครับ แล้วพอพูดถึง ยุครุ่งเรืองของCharger จะไม่พูดถึงคันนี้คงไม่ได้ Daytona เป็นรถรุ่นพิเศษ ที่สร้างมาจาก แพลทฟอร์ม Charger

เพื่อที่จะเอาลง แข่งขัน NASCAR สนาม Daytona 500 สนามแข่งที่ถือได้ว่า มีความโด่งดังมากสุด ในช่วงยุคสมัยนั้นเลย แล้วก็ตรมคาด Charger-Daytona เอาชนะคู่แข่งไป แบบที่ทิ้งไม่เห็นฝุ่น

เลยทำให้รถรุ่นนี้ โดนแบนไปจากรายการแข่ง ในเวลาถัดมาครับ ไม่งั้นการแข่งขันนี้ คงจะกร่อยไปแน่นอนเลย แถมรถ Chargerเจน2 นี้ได้เอาไปเป็นรถ ที่คู่ใจ Dominic Toretto ในหนังเฟรนไชน์ Fast & Furious นั่นเอง

อเมริกันมัสเซิลคาร์

รถสปอร์ต อเมริกัน

อัพเดทข่าวสินค้าไอที

เกมมือถือตอนนี้มาแรง

เมืองในไอร์แลนด์